วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ดอกลิลลี่ lily


ดอกลิลลี่ lily




ประวัติดอกลิลลี่  
         ลิลลี่(Lily, Lilium hybrids) เป็นไม้ดอกประเภทหัว มีดอกขนาดใหญ่เป็นสง่าและสวยงามมาก บางชนิดมีกลิ่นหอมมาก นับว่าเป็นดอกไม้ที่มีราคาแพงที่สุดในปัจจุบัน ใช้ได้ทั้งเป็นไม้ตัดดอกและไม้กระถาง ชนิดที่นิยมปลูกในปัจจุบันคือ ลิลลี่ปากแตร เนื่องจากดอกมีรูปทรงเหมือนแตร ชนิดนี้มีดอกสีขาวมีกลิ่นหอม ในต่างประเทศเรียก Easter lily อีกชนิดหนึ่งเป็นลูกผสมเอเชีย (Asiatic hybrids) มีช่อดอกตั้ง มีดอกหลายสี ชนิดนี้มีดอกไม่หอม อีกชนิดหนึ่งมีดอกหอมมากมีราคาแพงที่สุด คือลูกผสม Oriental hybrids

             ในพื้นที่ของโครงการหลวง เช่น ดอยปุย ดอยอ่างขาง และดอยอินทนนท์ พบว่ามีลิลลี่พันธุ์พื้นเมือง หรือเรียกว่าลิลลี่ดอยขึ้นอยู่ในป่า ออกดอกในเดือนสิงหาคมดอกหอมมากโดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่มีอากาศหนาวเย็น
              ปัจจุบันนี้โครงการหลวงได้ทำการวิจัยขยายพันธุ์ลิลลี่ โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อให้เกษตรกรชาวเขาปลูก นอกจากนี้ยังได้ทำการปรับปรุงพันธุ์ลิลลี่ลูกผสมต่างชนิด โดยใช้พ่อแม่พันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศผสมกับลิลลี่ดอยอีกด้วย



ความหมายดอกลิลลี่ lily






วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง "ความหมายดอกลิลลี่" ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้สากล เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนรู้จักกับดอกลิลลี่เป็นอย่างดี แต่ดอกลิลลี่นั้นมีมากมาย หลากหลายสี ดังนั้นดอกลิลลี่แต่ละสีก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันไปด้วย  








ดอกลิลลี่สีขาว เราเริ่มต้นกันที่ดอกลิลลี่สีขาวกันก่อนนะ ดอกลิลลี่สีขาวมีความหมายถึง "ความรักที่บริสุทธ์"  อ่อนโยน และอ่อนหวาน เหมือนรักแรกพบอะไรประมาณนั้น ดอกลิลลี่สีขาว จะให้ความหมายคล้ายๆ กันกับดอกกุหลาบสีขาวนะ





ดอกลิลลี่


ดอกลิลลี่สีเหลือง ต่อไปเรามาดูความหมายของดอกลิลลี่สีเหลืองกันบ้าง ดอกลิลลี่สีเหลือง จะหมายถึง "ความรักที่แสดงออกถึงความห่วงใย"  เป็นห่วงตลอดเวลา อยากให้ปลอดภัย ความหมายของดอกลิลลี่สีเหลืองจะประมาณนี้นะ









ดอกลิลลี่สีส้ม ความหมายของดอกลิลลี่สีส้ม ก็จะสดใสเหมือนสีของมันนั้นเอง ดอกลิลลี่สีส้มหมายถึง ความสนุก ความร่าเริง แฮปปี้ มีความสุข ดอกลิลลี่สีส้ม จึงเป็นดอกไม้ที่น่าให้สำหรับเพื่อนสนิท คนรู้จักทั่วไป









ดอกลิลลี่สีชมพู เป็นดอกที่เหมาะจะให้แก่คนรัก ด้วยสีที่หวานของสีชมพู จึงทำให้การให้ดอกลิลลี่สีชมพูนั้น แสดงออกถึงความรักที่ลงตัว ประมาณว่าเธอคือคนที่ใช่ และเป็นอะไรที่ชอบ






การปลูกต้นดอกลิลลี่
1. เลือกพื้นที่ที่มีการระบายน้ำได้ดีและมีอินทรียวัตถุสูง จากนั้นยกแปลงสูง 20-30 ซม. กว้าง 1 เมตร เว้นทางเดิน 50 ซม.
2. ช่วงแรกของการเจริญเติบโต ควรรักษาอุณหภูมิประมาณ 12-13 C หลังจากนั้นอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญของลิลลี่ คือ กลางคืน
14-16 C และ กลางวัน 22-25 C โดยให้มี ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณร้อยละ 80-85
3. ต้นลิลลี่เป็นไม้ดอกที่ชอบความชื้นและไม่ถูกกับแสงแดดจัด ๆ จึง ควรมีการพรางแสงในช่วงอากาศร้อน เพื่อรักษาความชื้น
4. ควรรดน้ำ 2-3 วันก่อนปลูกเพื่อให้ดินชื้น จากนั้นควรรดน้ำวันละครั้งในช่วงเช้า
5. ครั้งแรกให้ปุ๋ยแคลเซียมไนเตรท สูตร 15.5-0-0 อัตรา 1 กก./พื้นที่ 100 ตรม. หลังปลูก 3 สัปดาห์ ต่อมาให้ปุ๋ยสูตร 12-10-18 ทุก 2 สัปดาห์
หลังตัดดอกแล้วหากต้องการเก็บหัวควรให้ปุ๋ยที่มีโปแตสเซียมสูง เพื่อช่วยในการพัฒนาหัว เช่น สูตร 13-13-21 ทุก 2 สัปดาห์

การดูแลรักษาและกำจัดศัตรูที่สำคัญ 
1. โรครากเน่า สาเหตุจากเชื้อ Rhizoctonia solani ลักษณะการทำลายใบอ่อนใบล่างจะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนโดยทั่วไป ถ้าเป็นมากระบบราก
จะถูกทำลาย ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต
    การป้องกันและวิธีแก้ไข = อบดินโดยใช้สารเคมี เช่น เม็ธธิลโบรไมด์ หรือโซดาเม็ท หรือรดเครื่องปลูกด้วยควีนโตซีน
2. โรครากเน่า สาเหตุจากเชื้อ Phytophthora spp. โคนต้น จะเป็นจุดสีน้ำตาลอมม่วงแล้วลามขึ้นมา ใบจะเหลืองจากใบล่าง การเจริญเติบโต
จะชะงัก และต้นเหี่ยวอย่างฉับพลัน 
    การป้องกันและวิธีแก้ไข = อบดินโดยใช้สารเคมี เช่น เม็ธธิลโบรไมด์ หรือโซดาเม็ท หรือมาแนบ
3. โรคใบจุด สาเหตุจากเชื้อ Botrytis spp. ในช่วงที่อากาศชื้นมาก ใบหรือต้นจะเป็นจุดสีน้ำตาลเข้ม ขนาด 1-2 มม.ดอกบานจะเสียหายได้ง่าย โดยจะเป็นจุดอวบน้ำสีเทา 
    การป้องกันและวิธีแก้ไข = ฉีดพ้นด้วยสารเคมีเบนเลทผสมแมนโคเซ็บ ทุกสัปดาห์ ช่วงออกดอกควรใช้สารคลอโรธานิล
4. เพลี้ยอ่อน ลักษณะการทำลาย จะทำให้ใบบน ๆ โค้งงอในระยะแรกและจะบิดเบี้ยว ดอกอ่อนจะมีจุดสีเขียวและไม่ได้ทรง การป้องกันและวิธีแก้ไข ใช้สารเคมี เช่น เดลต้ามีธริน หรือไพริมิคาร็บ ฉีดพ่นทุก ๆ   5-6 สัปดาห์



การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังเก็บเกี่ยว
การตัด
    ควรตัดดอกลิลลี่ในระยะที่ดอกล่างสุดตูม เริ่มแสดงสี และพร้อมที่จะบานในวันถัดไป การตัดดอกเร็วเกินไปจะทำให้ดอกบานช้าสีซีด    จำนวนดอกบานน้อยและคุณภาพต่ำ ควรตัดช่อดอกโดยเหลือต้นไว้เหนือดินประมาณ 10-20 ซม.

การคัดเกรด 
    คัดเกรดตามจำนวนดอก ความยาว และความแข็งแรงของก้าน ควรริดใบที่โคนก้านออกประมาณ 10 ซม. เพื่อยืดอายุการปักแจกัน และป้องกันน้ำเสีย 
    หลังการตัดดอกควรแช่ในสารซิลเวอร์ไธโอซัลเฟต อัตรา 30 มล./น้ำ 1 ล. เป็นเวลา 20 นาที จากนั้นจึงย้ายไปใส่น้ำสะอาดที่ปรับค่าพีเอช เท่ากับ 3.5  เก็บที่อุณภูมิ 3-5 C


การเก็บรักษาดอกลิลลี่
1. เลือกซื้อดอกลิลลี่ที่สด
2. เด็ดเอาใบที่อยู่ใต้ระดับน้ำออก 
3. ตัดก้านดอกเป็นแนวเฉียง 45 องศา นำก้านแช่ไว้ในน้ำ เพื่อให้ลำต้นดูดซึม น้ำได้ดี 
4. ละลายสารอาหารในน้ำอุ่น ( สำหรับดอกไม้ ) นำดอกไม้ลงในน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ 
5. ควรตัดก้านดอกไม้ทุกๆ 3วันและเปลี่ยนน้ำที่เติมสารอาหารไว้เพื่อให้ดอกไม้ ดูสดอยู่เสมอ (สารอาหารหาซื้อได้ตามร้านขายดอกไม้ทั่วไป )
6. ควรเติมน้ำให้ดอกไม้ทุกวัน และเปลี่ยนน้ำทุกๆ 3 วัน 
7.ใช้กระบอกฉีดละอองน้ำให้ดอกไม้ทุกวันโดยกระบอกที่ใช้ต้องสะอาดเสมอ 
8. จัดดอกไม้ตั้งไว้ในที่ร่ม อากาศโปร่งอย่าวางดอกไม้ให้รับแสงแดดโดยตรง เพราะจะทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉาเร็ว 
9. หลายคนเชื่อว่าการพูดคุยกับดอกไม้ทุกวัน จะทำให้ดอกไม้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น


1 ความคิดเห็น:

  1. ลิลลี่ดอยมีหัวขายที่ไหมบ้างค่ะ
    และลิลลี่พันธุ์ตัดดอกมีไหมค่ะขอบคุณค่ะ
    0811339123

    ตอบลบ